Why Nostr? What is Njump?
2024-05-03 11:23:15

Jakk Goodday on Nostr: ## **The Assualt on Saving** [Preview & Revised] สุภาษิตเก่าๆ ...

## **The Assualt on Saving** [Preview & Revised]


สุภาษิตเก่าๆ อย่าง "อดเปรี้ยวไว้กินหวาน", "เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย" หรือ "มีสลึงพึงบรรจบให้ครบบาท" นี่ก็คือสารพัดสุภาษิตที่คุณปู่คุณย่าของเราชอบนำมาเตือนสติ มันเหมือนเครื่องเตือนใจให้เรารู้จักหยุดคิดก่อนทุ่มเทไปในการใช้จ่ายและสะสมทรัพย์สินเอาไว้เผื่อเหตุไม่คาดฝัน มันก็เหมือนกับการปลูกต้นไม้นั่นแหละ เราต้องรดน้ำ, พรวนดิน และใส่ปุ๋ยอย่างใจเย็น เพื่อรอวันที่ต้นไม้นั้นจะออกดอกออกผล เป็นทั้งร่มเงาและผลไม้ให้เราได้เก็บเกี่ยว

การออมก็คล้ายกับการปลูกต้นไม้ เราค่อยๆ เก็บเล็กผสมน้อย ปลูกฝังการใช้เงินอย่างมีสติและรอให้เงินนั้นเจริญเติบโตเพื่อบรรลุเป้าหมายต่างๆ ที่เราตั้งไว้ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อบ้าน, ซื้อรถ, การศึกษาหรือแม้กระทั่งการเกษียณอย่างสบายใจ

แต่เอาเข้าจริง.. ในยุคที่การช็อปปิ้งออนไลน์มันง่ายแค่ปลายนิ้ว หลายคนอาจมองว่าการออมนั้นเป็นเรื่องของยุคสมัยยายทวด มีนักเศรษฐศาสตร์บางคนยังบอกเลยว่า "ใช้เงินให้หมดๆ ไปเถอะ! มาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจกันดีกว่า!" พวกเขาเชื่อว่าการใช้จ่ายจะทำให้เงินหมุนเวียน สร้างงาน สร้างรายได้ และกระตุ้นการบริโภค นำไปสู่การเติบโตทางเศรษฐกิจได้

แต่เรื่องมันไม่ได้มีแค่ขาวดำเสมอไป การใช้จ่ายเป็นแรงบันดาลใจให้เศรษฐกิจระยะสั้นแจ่มใส แต่การออมก็เป็นกุญแจสำคัญสำหรับการลงทุนและการเติบโตในระยะยาว เมื่อเราออม มันก็เกิดเงินทุนสำหรับการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน นวัตกรรมและอื่นๆ

หากพูดถึงจุดสมดุลระหว่างการใช้จ่ายกับการออม เราต้องใช้จ่ายอย่างฉลาดไม่ฟุ่มเฟือยและออมเงินเพื่ออนาคตที่มั่นคง มันเป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างความปรารถนาในตอนนี้กับความจำเป็นในอนาคต

สุภาษิตเหล่านี้ยังคงมีคุณค่าต่อชีวิตปัจจุบันของเรา เป็นตัวช่วยเตือนใจให้เรารู้จักใช้เงินอย่างมีสติและออมไว้เพื่ออนาคตที่ดีกว่า การใช้จ่ายและการออมเป็นเหมือนสองด้านของเหรียญเดียวกัน สำคัญต่อทั้งเศรษฐกิจและชีวิตเราเอง

### **สองเส้นทางชีวิตจากมรดกก้อนเดียว**
ณ เมืองเฟียตทาวน์ที่ชวนฝัน.. สองพี่น้อง "ปิติ" กับ "มานะ" ได้รับมรดกตกทอดมาคนละก้อน ซึ่งทุกๆ ปีมรดกก้อนดังกล่าวจะให้ผลตอบแทนมากถึง 50,000 เฟียต มันเป็นรายได้ที่ทำให้ใครต่อใครต้องอิจฉา ชีวิตดูเหมือนจะสดใสสำหรับทั้งคู่ แต่แท้จริงแล้ว.. พวกเขากำลังเดินบนเส้นทางที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

“ปิติ” พี่ชายคนโตนั้นรักสนุกเต็มเปี่ยม ใช้ชีวิตเต็มที่ "Work hard, Play harder" คือคำขวัญประจำใจของเขา การใช้จ่ายเงินก้อนโตเพื่อความสุขและความฟุ่มเฟือยคือเรื่องปกติ เขาถือว่าชีวิตนี้ต้องมันส์ให้หัวราน้ำ คลับหรูกลายเป็นบ้านหลังที่สอง ความสุขชั่วคราวจากแสงสีและเสียงเพลงกลายเป็นสิ่งชูใจให้เขาลืมเรื่องราวต่างๆ รอบกาย ปิติไม่เพียงแต่ใช้เงินสร้างคฤหาสน์หรูหราเหมือนอยู่ในเทพนิยายเท่านั้น แต่ยังหมกมุ่นกับการเก็บรถหรูและนกพิราบแข่ง ชีวิตของเขาเต็มไปด้วยการสร้างภาพลักษณ์ในสังคมผ่านการเดินทางและของขวัญแพงๆ

ในขณะที่ปิติใช้เงินไปเรื่อยเปื่อย.. "มานะ" น้องชายกลับเดินตามเส้นทางที่ตรงกันข้าม ใช้ชีวิตอย่างประณีตและเรียบง่าย มานะให้ความสำคัญกับการออมและการลงทุน ใช้เงินเพียงครึ่งหนึ่งจากเงินที่ได้รับและออมส่วนที่เหลือ เขาคำนวณรายรับ-รายจ่ายอย่างละเอียด ลงทุนในสินทรัพย์หลากหลายและสร้างธุรกิจขึ้นจากศูนย์ ด้วยความมุ่งมั่นและการวางแผนอย่างชาญฉลาด มานะสามารถสร้างความมั่นคงทางการเงินและชื่อเสียงในวงการธุรกิจได้สำเร็จ

ผ่านไป 12 ปี.. ชีวิตของสองพี่น้องเผยให้เห็นความแตกต่างที่ชัดเจน ปิติสิ้นเนื้อประดาตัวจากการใช้จ่ายที่ไม่ยั้งคิด ส่วนมานะกลายเป็นผู้นำทางการเงินและธุรกิจที่เคารพนับถือ ปิติต้องหันมาขอความช่วยเหลือจากมานะและจึงได้ตระหนักรู้ถึงคุณค่าของ "การออม"

เรื่องราวนี้สะท้อนให้เห็นว่าการใช้เงินอย่างชาญฉลาด การออม และการลงทุนเป็นหัวใจของการสร้างอนาคตที่ยั่งยืน จงอย่าหลงใหลกับความสุขชั่วคราว แต่ให้วางแผนชีวิตอย่างรอบคอบ เพื่อความมั่งคงและความสุขที่ยั่งยืนตลอดไป

### **ทำไม "การออม" ถึงสำคัญ?**
“การออม” มันก็เหมือนการหย่อนเมล็ดพันธุ์ลงไปในดินแห่งอนาคตนั่นแหละ มันอาจดูเล็กน้อยไม่มีค่า แต่ถ้าเราใส่ใจรดน้ำ หมั่นพรวนดิน ให้ปุ๋ยเป็นประจำ วันหนึ่งเมล็ดพันธุ์นั้นจะงอกเป็นต้นไม้ใหญ่ ให้ทั้งร่มเงาและผลไม้สุกงอม มันไม่ได้เกี่ยวกับการเก็บเงินใส่กระปุกหรือแค่ฝากธนาคารเท่านั้นนะ แต่เป็นเรื่องของการวางแผนชีวิต ความมีวินัย และความรับผิดชอบต่ออนาคตของเราเอง

การออมคือการลงทุนในตัวเอง

บางคนอาจคิดว่าการออมเป็นการกักตุนเงินไม่ยอมใช้ซื้อของ แต่นั่นคือความเข้าใจผิดอย่างใหญ่หลวงเลยล่ะ ในยุคสมัยนี้การออมก็หมายถึง "การลงทุน" นั่นเอง เงินที่เราเก็บไว้น่ะ มันไม่ได้แค่นอนเฉยๆ แต่ถูกนำไปหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ ผ่านการลงทุนหลากหลายรูปแบบ มันเหมือนกับน้ำที่หล่อเลี้ยงต้นไม้ให้เติบโต แข็งแรงและออกดอกออกผล

คนบางคนก็คิดว่าการออมทำให้เศรษฐกิจตกต่ำเพราะลดการใช้จ่าย แต่นั่นไม่จริงเลย การลดการใช้จ่ายเกิดขึ้นเมื่อคนเริ่มรู้สึกไม่มั่นใจในเศรษฐกิจ ไม่ใช่เพราะไม่อยากใช้เงินแต่เพราะพยายามปกป้องตัวเองจากสถานการณ์ไม่แน่นอน

การออมจึงเหมือนการเตรียมพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ในชีวิต เป็นการสร้างเรือที่แข็งแรงพร้อมสำหรับทะเลที่มีคลื่นลมและพายุ เพื่อให้เราสามารถล่องเรือผ่านมันไปได้โดยไม่ต้องหวาดวิตกต่อสิ่งใด

การออมไม่ใช่แค่การเก็บเงินเอาไว้แต่เป็นการปลูกสร้างเส้นทางสู่อนาคต ให้เราสามารถเข้าถึงฝันและความต้องการของเราได้ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อบ้าน รถ หรือแม้แต่การเกษียณที่มีความสุข เราก็มีอิสระที่จะทำสิ่งที่ต้องการโดยไม่ต้องพึ่งพาใคร (ใครสักคนแถวๆ นี้เรียกมันว่าภาวะ “สีเขียว”)

และไม่ใช่แค่เรื่องของคนรวยหรือคนมีเงินเดือนสูงเท่านั้นที่ควรออม ทุกคนทุกเพศทุกวัยก็สามารถออมได้ มันเริ่มต้นได้จากการมีวินัยในการใช้จ่ายและการวางแผนการเงินอย่างมีสติ

การออมเป็นเหมือนการท่องเที่ยวเส้นทางสู่อนาคตที่มั่นคงและสงบ มันเป็นการลงทุนในวันนี้เพื่อผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่ในวันพรุ่งนี้ และเมื่อคุณเริ่มเห็นผลจากการออม คุณจะตระหนักว่าทุกการลงทุนเล็กๆ ที่คุณทำอยู่นั้นคุ้มค่าอย่างยิ่ง

แม้ทางเลือกในการออมจะมีมาก แต่ปัจจุบันนี้ชาวเราก็รู้ดีอยู่แล้วว่าออมไว้ที่ไหนนับว่าชาญฉลาดที่สุด

มันก็คือ.. “มะพร้าว” นั่นเอง…

แป่ว..

- - -


บทความนี้ผมได้รับแรงบันดาลใจมาจากเนื้อหาในบทที่ 24 ชื่อว่า The Assualt on Saving ของหนังสือ “Economic in one lesson” ผลงานของ Henry Hazlitt โดยผมได้ทำการถอดใจความสำคัญบางส่วนออกมาเรียบเรียงและเขียนขึ้นใหม่เพื่อไม่ให้ซ้ำกับเนื้อหาในหนังสือมากเกินไป เจตนาก็เพื่อแนะนำเนื้อหาในหนังสือนั่นเอง ซึ่งมันก็คือเล่มที่ อ.ขิง ของเรากำลังทำการแปลอยู่นั่นแหละครับ

“Economics in One Lesson” โดย Henry Hazlitt ถือเป็นหนึ่งในคลังความรู้เศรษฐศาสตร์ที่ทรงคุณค่า และเป็นหนังสือที่เป็นมิตรต่อผู้เริ่มต้นที่ต้องการเข้าใจหลักการเศรษฐศาสตร์ในแบบฉบับของสำนักออสเตรียนด้วยภาษาที่เข้าใจง่าย โดยไม่สูญเสียความลึกของเนื้อหาไป หนังสือเล่มนี้ถูกเขียนขึ้นเพื่อวิเคราะห์ผลกระทบของนโยบายเศรษฐกิจที่ไม่เพียงแต่มองเห็นผลที่เกิดขึ้นในระยะสั้นเท่านั้น แต่ยังรวมถึงผลกระทบในระยะยาวต่อสังคมโดยรวม

ผู้เขียนใช้ตัวอย่างเฉพาะที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายและเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน เพื่อให้ผู้อ่านสามารถเห็นความสัมพันธ์ระหว่างหลักการเศรษฐศาสตร์กับการตัดสินใจทางเศรษฐกิจที่พวกเขาเจอทุกวัน

แม้ว่าหนังสือเล่มนี้จะถูกเขียนขึ้นมานานแล้ว แต่หลักการที่กล่าวถึงยังคงสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับสถานการณ์ในปัจจุบันได้ การอ่านและทำความเข้าใจเนื้อหาจากหนังสือเล่มนี้จะช่วยให้ผู้อ่านสามารถมองเห็นภาพรวมและเข้าใจถึงผลที่ตามมาของการตัดสินใจทางเศรษฐกิจที่มีต่อแต่ละบุคคลและสังคมโดยรวมได้ดียิ่งขึ้น

ส่งกำลังใจให้ทีมงานของเรา โดยเฉพาะ อ.ขิง กันด้วยครับ 🙏

#siamstr #jakkstr #economicinonelesson

Author Public Key
npub1mqcwu7muxz3kfvfyfdme47a579t8x0lm3jrjx5yxuf4sknnpe43q7rnz85