Why Nostr? What is Njump?
2024-06-01 02:04:25

BeYourCyber on Nostr: วันนี้ ...

วันนี้ ขอเล่าเรื่องหนักสมองนิดหน่อย แต่เป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์มากๆ กับเรื่องของ "ดอกเบี้ย" แต่อย่าพึ่งกังวล จะทำให้เห็นภาพง่ายที่สุด

"หาเงินเพิ่มได้ ถ้าเข้าใจดอกเบี้ย"
เช่น กู้บ้าน ธนาคารคิดดอกเบี้ย 6% และ เราได้เงินก้อน(bonus , งานเสริม ฯลฯ) จะทำอย่างไรดี แน่นอนว่าชาวเน็ตจะตอบเสียงเดียวกัน โปะบ้านเลย 100%

แต่ผมจะชวนให้คิดต่าง ดังนี้

1) เงินสำรองเรามีเท่าไร
บางคนมีเท่าไรโปะบ้านหมด จนไม่เหลือเงินสำรอง เวลาเกิดเหตุฉุกเฉิน เกินกว่าที่เราคาดเรา เราจะตึงมือทันที ดังนั้น ถ้ายังมีเงินสำรองไม่พอ ให้เราเก็บไว้เป็นเงินสำรองก่อนเสมอ อย่าพึ่งคิดเรื่องดอก หรือ ผลตอบแทน

เงินสำรองที่เหมาะสม คิดได้จาก "ค่าใช้จ่ายต่อเดือน" คูณ "จำนวนเดือน ระหว่าง 6-12" เลือกเอาได้เลย เช่น ค่าใช้จ่ายเดือนละ 30,000 บาท แต่หาเงินลำบาก และงานมั่นคงดี ก็เก็บ 30,000*6 = 180,000 บาท พอ หรือ บางคน ทำงานไม่มั่นคง พร้อมโดนเด้งตลอดเวลา อาจจะ คูณ 12 เลย

เงินสำรองนี้ มีอีกความหมายว่า "ถ้าเงินรายรับที่ควรจะได้ทุกเดือน หายไปทันที เราจะมีเวลาคิด ตั้งหลัก ก่อนหารายรับใหม่ ได้นานเท่าไร" ใครชอบ safe มากน้อยเลือกได้
ส่วนตัวผมเป็นสายอุ่นใจ ก็จะมีไว้ 12 เดือน

ถ้าผ่านข้อนี้ได้ ดูข้อต่อไปได้เลย

2) หากำไรจากเงินก้อนนั้น ได้เท่าไร คิดเป็นกี่ %
เช่น เอาไปฝาก DeFi ได้ APR 10%, เอาไปเปิดลงทุนซื้อขนมปัง ทำ sandwich ขาย ได้กำไรเพิ่มคิดเป็น 20% จากทุนที่ได้ลงไป (หักค่าแรงและทุนทุกอย่างแล้ว)

แบบนี้ คำตอบที่ถูกต้องคือ ต้องเอาไปลงทุน
เพราะ ถ้าเราไม่โปะบ้าน เงินก้อนนั้น เราต้องจ่ายดอกกู้ 6% ต่อปี
แต่ลงทุน DeFi ได้กำไร 10% ต่อปี (แปลว่าเราได้เงินส่วนเพิ่ม 4% ต่อปี)
แต่ลงทุน ขาย sandwich ได้กำไร 20% ต่อรอบ (ขายครั้งเดียวต่อปีพอ) แปลว่าเรามีส่วนต่างกำไร 14% ต่อปี เลยทีเดียว

การบริหารแบบนี้ ทำให้เรามองอีกมุมได้ว่า
"เราได้อยู่บ้านฟรี และ ยังได้เงินเพิ่มจากเงินทุนก้อนนั้นอีก" ที่อยู่ฟรี เพราะเราเอาไปลงทุนได้เงินกำไร เกินกว่าดอกเบี้ยแล้ว + เงินกำไรส่วนต่าง ทำให้เงินทุนเราเพิ่ม
ซึ่งถ้าเราวนเอาเงินส่วนต่าง ไปเพิ่มในการลงทุน ผลการลงทุนในระยะเวลาหลังจากนั้น ก็จะให้ผลตอบแทนเพิ่มขึ้นอีก

---
เพียงแค่ 2 ข้อนี้ ที่ต้องเข้าใจให้ชัดเจน แจ่มแจ้ง เราสามารถประยุกต์ใช้ได้ในหลายสถานการณ์เลย ไม่ติดกับเพียง การกู้บ้านเท่านั้น

เช่น เราเห็นว่า DeFi ให้ผลตอบแทน 20% APR แต่เราไม่มีทุนเลย ดังนั้น เราก็หากู้เงินจากคนที่เรารู้จัก เพื่อมาลงทุน สมมุติเค้าคิดดอก 5% ต่อปี แปลว่า เราจะได้กำไร 15% ต่อปีเลย และ DeFi ปกติเราทบต้นเพิ่มทุนได้ตลอดเวลา ในขณะที่ฝั่งกู้ ดอกจะ fixed เป็นต่อปี อีกต่างหาก ดังนั้น ส่วนต่างนี้จะเยอะกว่านี้อีก

อีกตัวอย่าง
เงินที่เราเก็บในรูปเงินสด มีเงินเฟ้ออยู่ที่ 4% ต่อปี เราเก็บใน Bitcoin หรือ ทองคำแท่ง ด้วยมูลค่าเท่ากัน และกำหนดให้ ไม่มีคนไล่ซื้อ Bitcoin / ทองคำ เลย แต่ด้วยอำนาจเงินเฟ้อ 4% มันก็จะไป price in ทำให้ Bitcoin / ทองคำ ราคาเพิ่ม 4% โดยธรรมชาติ เรื่อยๆ แม้ว่าไม่มีใครทำอะไรเลยก็ตาม

ในเน็ตชอบแซวกันว่า ถ้าเราซื้อผักมาเก็บไว้ ปีนึงเราก็ได้ส่วนต่างจากเงินเฟ้อที่เราเห็นนั้นแล้ว นั่นคือความคิดที่ถูกต้องแล้วนะ แต่ทำจริงไม่ได้ เพราะ ผัก เนื้อสัตว์ หรือ อาหาร มีอายุการเก็บที่สั้นนั่นเอง

แนวคิดนี้ สามารถนำไปคิดต่อยอดกับเรื่องอื่นๆได้อีกเยอะเลย

ป.ล.ผมผ่านเรื่องพวกนี้มาหมดแล้ว และ ใช้สูตรนี้แหล่ะ ไปหากำไรจากโลก crypto จนมีวันนี้ได้ ดังนั้น proof ให้แล้ว ว่าแนวคิดนี้ มันถูกต้อง และ ใช้ได้ ไม่ได้อ่านเอามาจากตำรา แล้วมาเล่าสู่กันฟังเน้อ

ป.ล.2 เมื่อพูดถึงเรื่องลงทุน แน่นอน ว่า การลงทุนทุกอย่าง ล้วนมีความเสี่ยง ดังนั้น ขอให้ทำความเข้าใจ และคิดถึงเรื่องความเสี่ยงในแง่มุมต่างๆ ให้ครบถ้วนก่อน เป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะหลายครั้ง คนก็เลือกเครื่องมือการลงทุนที่ไม่ถูกต้อง อย่าง UST ก่อนที่จะแตก ได้ APR 21% แบบนิ่งๆ เลยไปเอาเงินของทั้งครอบครัวมา all in เลย แล้ววันที่ UST แตก ก็คือ ล้มทั้งยืนทั้งครอบครัวเลย แบบนี้ ก็ต้องมองให้ขาดด้วย บริหารความเสี่ยงให้ดีๆ อย่ามองแต่ผลตอบแทนแต่เพียงอย่างเดียว

#siamstr #inflation #interest
Author Public Key
npub13w8fn664l78a70gflcyxu66zxr0nyfaaxqtwz0an3vq3vjktgkxqt9fle3