BKMiner on Nostr: ...
ผมจะมานำเสนออุปมา(หรือคุณจะเรียกมันว่าโวหารภาพพจน์แบบไหนก็ตามแต่) ที่น่าสนใจว่าทำไมเราถึงควร ignore bullshit fiat paper แบบไม่เอาเข้ามาอยู่ในสาระบบการตัดสินใจเพื่อสุขภาพของเราเลย ?
(ซึ่งเป็นแนวคิดที่ตรงกันข้ามกับหมอเมนสตรีมที่แบบว่า ถึงเปเปอร์นี้จะห่วย แต่เขาก็พอจะมีประโยชน์นะ)
คิดสภาพว่าปกติคุณย่างสเต๊กกินวันละขีดอยู่ทุกวัน แล้วอยู่มาวันนึงมีไอบ้าที่ไหนไม่รู้เอาน้ำซอสรสขี้หมาท้องเสียทำจากขี้หมาท้องเสียสดๆหอมกรุ่นจากตรูดหมาเมื่อ5นาทีก่อน มาให้คุณแล้วบอกว่า “เนี่ย คุณต้องเอาน้ำซอสขี้หมาท้องเสีย 1 หยดผสมลงไปในเนื้อนะ เนื้อไม่เสียรสชาติหรอก เนื้อตั้งขีดนีงกะซอสแค่หยดเดียวเอง” “ซอสเนี่ย คือวัตถุดิบที่ดีที่สุดที่เราสามารถหาได้ในตอนนี้แล้วนะ” “ถ้าคุณกินเนื้อโดยไม่เติมซอสขี้หมานี้ อีก 20 ปีคุณจะเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจมากขึ้น 61.8% นะ”
คุณจะเติมมะล่ะ
คือในเมื่อเราเห็นแล้วว่า study design ของ paper มันขี้หมาท้องเสียขนาดไหน เราก็คงไม่อยากเอามันมาใส่หัวแม้แต่ 1% มั้ยล่ะ แต่หมอ mainstream แม่ง be like : “ถึงแม้ paper นี้จะมีเรื่อง flaw บาง(หลาย)อย่าง แต่ paper นี้ก็ให้ insight สำคัญบางอย่างที่เราไม่ควรมองข้ามเหมือนกัน”
เหยยยย ขี้หมาท้องเสียนา ยังหวังจะเอาโปรไบโอติกจาก 1 หยดของมันอยู่อีกหรออออ หรือต้องให้ยกตัวอย่างเป็นขี้อีกาท้องเสียแทนถึงจะน่าขยะแขยงพอฟระ
#siamstr
Published at
2024-07-01 23:37:50Event JSON
{
"id": "3d24f5c1c65f20b93d80b9158c7bc58786f5f7a1ceebda5fe353c838b2ccc8b0",
"pubkey": "90a49390d066aee98fe786286355aac76ef02ac98dfc89ebb467decfefe81558",
"created_at": 1719877070,
"kind": 1,
"tags": [
[
"t",
"siamstr"
]
],
"content": "ผมจะมานำเสนออุปมา(หรือคุณจะเรียกมันว่าโวหารภาพพจน์แบบไหนก็ตามแต่) ที่น่าสนใจว่าทำไมเราถึงควร ignore bullshit fiat paper แบบไม่เอาเข้ามาอยู่ในสาระบบการตัดสินใจเพื่อสุขภาพของเราเลย ?\n\n(ซึ่งเป็นแนวคิดที่ตรงกันข้ามกับหมอเมนสตรีมที่แบบว่า ถึงเปเปอร์นี้จะห่วย แต่เขาก็พอจะมีประโยชน์นะ)\n\nคิดสภาพว่าปกติคุณย่างสเต๊กกินวันละขีดอยู่ทุกวัน แล้วอยู่มาวันนึงมีไอบ้าที่ไหนไม่รู้เอาน้ำซอสรสขี้หมาท้องเสียทำจากขี้หมาท้องเสียสดๆหอมกรุ่นจากตรูดหมาเมื่อ5นาทีก่อน มาให้คุณแล้วบอกว่า “เนี่ย คุณต้องเอาน้ำซอสขี้หมาท้องเสีย 1 หยดผสมลงไปในเนื้อนะ เนื้อไม่เสียรสชาติหรอก เนื้อตั้งขีดนีงกะซอสแค่หยดเดียวเอง” “ซอสเนี่ย คือวัตถุดิบที่ดีที่สุดที่เราสามารถหาได้ในตอนนี้แล้วนะ” “ถ้าคุณกินเนื้อโดยไม่เติมซอสขี้หมานี้ อีก 20 ปีคุณจะเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจมากขึ้น 61.8% นะ”\n\nคุณจะเติมมะล่ะ\n\nคือในเมื่อเราเห็นแล้วว่า study design ของ paper มันขี้หมาท้องเสียขนาดไหน เราก็คงไม่อยากเอามันมาใส่หัวแม้แต่ 1% มั้ยล่ะ แต่หมอ mainstream แม่ง be like : “ถึงแม้ paper นี้จะมีเรื่อง flaw บาง(หลาย)อย่าง แต่ paper นี้ก็ให้ insight สำคัญบางอย่างที่เราไม่ควรมองข้ามเหมือนกัน”\n\nเหยยยย ขี้หมาท้องเสียนา ยังหวังจะเอาโปรไบโอติกจาก 1 หยดของมันอยู่อีกหรออออ หรือต้องให้ยกตัวอย่างเป็นขี้อีกาท้องเสียแทนถึงจะน่าขยะแขยงพอฟระ\n\n\n#siamstr",
"sig": "b77cce67c5f6f8007ce2c862726cdbe1792e231ad3eef4a06daa0287ad4e76018563ff0e230aac49170af5320f7636eaa59096fd4ace3f44a6c219ba15c2cc07"
}