Jingjo on Nostr: ...
หลายคนอาจไม่รู้ว่าพวกเรารอดสงครามนิวเคลียร์ล้างเผ่าพันธุ์มาได้ก็เพราะหนังตลกเสียดสีชื่อโคตรยาวอย่าง Dr. Strangelove or: How I Learned to Stop Worrying and Love the Bomb ของบรมครูสแตนลีย์ คูบริค (ใช่ครับ คนเดียวกับที่ทำเรื่อง 2001: A Space Odyssey ที่ Barbie เอาไปล้อนั่นแหละ)
https://youtu.be/jPU1AYTxwg4?si=PTu8fVou6_qaYyiMหนังเล่าเรื่องนายพลประสาทแดกคนนึงในทัพอากาศสหรัฐฯ ที่เชื่อว่าโซเวียตกำลังแอบปฏิบัติการใส่ฟลูออไรด์ลงในน้ำดื่มเพื่อบ่อนทำลายอเมริกันชน (ทุกวันนี้รัฐบาลมะกันทำเองแล้วมั้ง 5555) นี่มันคือภัยคุกคามจากคอมมิวนิสต์ที่ให้อภัยไม่ได้ ต้องเอานิวเคลียร์ไปปูพรมถล่มบ้านมัน ฆ่ามันให้หมดดดดดด!!! ว่าแล้วก็ออกคำสั่งพิเศษ Wing Plan R ให้กองยานติดหัวรบนิวเคลียร์เดินหน้าเข้าน่านฟ้าโซเวียตเพื่อทิ้งระเบิดปรมาณูทั่วแผ่นดินรุส ซึ่งอีคำสั่งที่ว่านี้เป็นชุดคำสั่งพิเศษที่มอบอำนาจให้นายพล bypass ลำดับขั้นตอนในยุทธวิธีได้เลยโดยไม่ต้องฟังคำสั่งกลาโหมและประธานาธิบดี
ความบัดซบขั้นสุดคือการจะยกเลิกคำสั่งดังกล่าว ต้องเข้ารหัสลับ 3 อักษร ที่มีแต่นายพลคนดังกล่าวที่รู้รหัส นี่มันสุดยอดแห่งความ single point of failure ชัด ๆ
ความน่ากลัวของเหตุการณ์นี้ไม่ใช่แค่ความยากของการยกเลิกคำสั่งที่ว่า แต่เป็นสิ่งที่เรียกว่า Doomsday Machine ที่โซเวียตติดตั้งไว้เป็นระบบป้องกันตัวเองแบบอัตโนมัติในกรณีโดนโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์ ระบบ Doomsday จะยิงหัวรบนิวเคลียร์ออกแบบพิเศษขนาด 100 กว่าเมกาตันไปยังทุกประเทศทั่วแผนที่โลกทันทีหากแผ่นดินรุสโดนนิวเคลียร์ลง และจะทำให้สิ่งมีชีวิตสิ้นชีพพร้อมกันหมด ก่อนจะพาโลกทั้งใบเข้าสู่สภาพแบบในเกม Fallout ไปอีกอย่างน้อย 93 ปี
https://youtu.be/kH37zkOr7qk?si=HY4MEbbkwlbjvWiqเอ้า! ฉิบหายสิทีนี้ มึงออกแบบระบบยิงนิวเคลียร์กันง่าย ๆ แบบนี้เลยหรอไอ้สองประเทศบ้าอำนาจ
ผลก็คือหนังแนว war room สุดเครียดที่ฉาบหน้าด้วยการแสดงแนวตลกเสียดสีตลอดทั้งเรื่อง ที่บุคคลระดับอีลีทของโลกต้องช่วยกันหาทางหยุดคำสั่งนี้ก่อนหายนะระดับแดดิ้นกันทั้งดาวจะมาถึงในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า
ฟังดูมันก็แค่หนังเสียดสีสงครามเย็นใช่มั้ยล่ะ? อยากบอกว่าไม่ใช่ครับ เพราะระบบสุดบ้าบอที่ผมเล่ามาเนี่ย ทั้งมะกันและโซเวียตเสือกมีอยู่จริง ๆ !!!
หลังจากหนังเรื่องนี้ออกฉายและประสบความสำเร็จในวงกว้าง (เป็นหนังขาวดำเรื่องสุดท้ายของคูบริค และได้รับการชูมือแทบจะโดยทั่วกันว่าเป็นหนังที่สนุกที่สุดของเจ้าตัวอีกด้วย) สิ่งที่ตามมาก็คือรัฐบาลสหรัฐฯ ทำการเปลี่ยนโปรโตคอลในการยิงหัวรบนิวเคลียร์ใหม่แบบยกเซ็ตเพื่อป้องกันเหตุการณื single point of failure แบบในหนัง และรัฐบาลโซเวียตก็ตัดสินใจลดขนาดอาวุธนิวเคลียร์ของตนเองที่กำลังจะทดลอง โดยลดเหลือแค่ประมาณ 50 เมกาตัน จากตอนแรกที่ออกแบบไว้ใหญ่ระดับเกิน 100 เมกาตัน
แม้แต่คูบริคเองก็ยอมรับว่าคนแบบตัวละครนายพลประสาทแดกกดปุ่มทำโลกแตกในเวลาไม่กี่นาที ต้องมีอยู่จริง ๆ แน่นอนในกองทัพอเมริกันและโซเวียต
เฮ้อ... ขอบคุณคุณปู่คูบริคผู้ล่วงลับ ที่นอกจากจะทำหนังเทพเป็นบ้า ยังเซฟพวกเราจากสงครามนิวเคลียร์ล้างโลกไว้อีกด้วย
กราบ,
จิงโจ้ เป็นโล้เป็นพายดูหนัง
#siamstr
#movie
Published at
2024-06-02 03:43:48Event JSON
{
"id": "0015b9fd76391fb4fb2529b667f58828096f7d60159417a55d7aaff2843b0392",
"pubkey": "a7e9b36ff24ae730706742553b4a4a2733b01156e7c9e26145f9bc6a14f061a9",
"created_at": 1717299828,
"kind": 1,
"tags": [
[
"t",
"siamstr"
],
[
"t",
"movie"
],
[
"nonce",
"6276",
"10"
]
],
"content": "หลายคนอาจไม่รู้ว่าพวกเรารอดสงครามนิวเคลียร์ล้างเผ่าพันธุ์มาได้ก็เพราะหนังตลกเสียดสีชื่อโคตรยาวอย่าง Dr. Strangelove or: How I Learned to Stop Worrying and Love the Bomb ของบรมครูสแตนลีย์ คูบริค (ใช่ครับ คนเดียวกับที่ทำเรื่อง 2001: A Space Odyssey ที่ Barbie เอาไปล้อนั่นแหละ)\nhttps://youtu.be/jPU1AYTxwg4?si=PTu8fVou6_qaYyiM\nหนังเล่าเรื่องนายพลประสาทแดกคนนึงในทัพอากาศสหรัฐฯ ที่เชื่อว่าโซเวียตกำลังแอบปฏิบัติการใส่ฟลูออไรด์ลงในน้ำดื่มเพื่อบ่อนทำลายอเมริกันชน (ทุกวันนี้รัฐบาลมะกันทำเองแล้วมั้ง 5555) นี่มันคือภัยคุกคามจากคอมมิวนิสต์ที่ให้อภัยไม่ได้ ต้องเอานิวเคลียร์ไปปูพรมถล่มบ้านมัน ฆ่ามันให้หมดดดดดด!!! ว่าแล้วก็ออกคำสั่งพิเศษ Wing Plan R ให้กองยานติดหัวรบนิวเคลียร์เดินหน้าเข้าน่านฟ้าโซเวียตเพื่อทิ้งระเบิดปรมาณูทั่วแผ่นดินรุส ซึ่งอีคำสั่งที่ว่านี้เป็นชุดคำสั่งพิเศษที่มอบอำนาจให้นายพล bypass ลำดับขั้นตอนในยุทธวิธีได้เลยโดยไม่ต้องฟังคำสั่งกลาโหมและประธานาธิบดี\n\nความบัดซบขั้นสุดคือการจะยกเลิกคำสั่งดังกล่าว ต้องเข้ารหัสลับ 3 อักษร ที่มีแต่นายพลคนดังกล่าวที่รู้รหัส นี่มันสุดยอดแห่งความ single point of failure ชัด ๆ\n\nความน่ากลัวของเหตุการณ์นี้ไม่ใช่แค่ความยากของการยกเลิกคำสั่งที่ว่า แต่เป็นสิ่งที่เรียกว่า Doomsday Machine ที่โซเวียตติดตั้งไว้เป็นระบบป้องกันตัวเองแบบอัตโนมัติในกรณีโดนโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์ ระบบ Doomsday จะยิงหัวรบนิวเคลียร์ออกแบบพิเศษขนาด 100 กว่าเมกาตันไปยังทุกประเทศทั่วแผนที่โลกทันทีหากแผ่นดินรุสโดนนิวเคลียร์ลง และจะทำให้สิ่งมีชีวิตสิ้นชีพพร้อมกันหมด ก่อนจะพาโลกทั้งใบเข้าสู่สภาพแบบในเกม Fallout ไปอีกอย่างน้อย 93 ปี\nhttps://youtu.be/kH37zkOr7qk?si=HY4MEbbkwlbjvWiq\nเอ้า! ฉิบหายสิทีนี้ มึงออกแบบระบบยิงนิวเคลียร์กันง่าย ๆ แบบนี้เลยหรอไอ้สองประเทศบ้าอำนาจ\n\nผลก็คือหนังแนว war room สุดเครียดที่ฉาบหน้าด้วยการแสดงแนวตลกเสียดสีตลอดทั้งเรื่อง ที่บุคคลระดับอีลีทของโลกต้องช่วยกันหาทางหยุดคำสั่งนี้ก่อนหายนะระดับแดดิ้นกันทั้งดาวจะมาถึงในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า\n https://image.nostr.build/0a13f5462b3b481253d46f50ea76daaacd1a497f8684e178cad52465ef7b1dc9.jpg \n\nฟังดูมันก็แค่หนังเสียดสีสงครามเย็นใช่มั้ยล่ะ? อยากบอกว่าไม่ใช่ครับ เพราะระบบสุดบ้าบอที่ผมเล่ามาเนี่ย ทั้งมะกันและโซเวียตเสือกมีอยู่จริง ๆ !!!\n\nหลังจากหนังเรื่องนี้ออกฉายและประสบความสำเร็จในวงกว้าง (เป็นหนังขาวดำเรื่องสุดท้ายของคูบริค และได้รับการชูมือแทบจะโดยทั่วกันว่าเป็นหนังที่สนุกที่สุดของเจ้าตัวอีกด้วย) สิ่งที่ตามมาก็คือรัฐบาลสหรัฐฯ ทำการเปลี่ยนโปรโตคอลในการยิงหัวรบนิวเคลียร์ใหม่แบบยกเซ็ตเพื่อป้องกันเหตุการณื single point of failure แบบในหนัง และรัฐบาลโซเวียตก็ตัดสินใจลดขนาดอาวุธนิวเคลียร์ของตนเองที่กำลังจะทดลอง โดยลดเหลือแค่ประมาณ 50 เมกาตัน จากตอนแรกที่ออกแบบไว้ใหญ่ระดับเกิน 100 เมกาตัน\n\nแม้แต่คูบริคเองก็ยอมรับว่าคนแบบตัวละครนายพลประสาทแดกกดปุ่มทำโลกแตกในเวลาไม่กี่นาที ต้องมีอยู่จริง ๆ แน่นอนในกองทัพอเมริกันและโซเวียต\n\nเฮ้อ... ขอบคุณคุณปู่คูบริคผู้ล่วงลับ ที่นอกจากจะทำหนังเทพเป็นบ้า ยังเซฟพวกเราจากสงครามนิวเคลียร์ล้างโลกไว้อีกด้วย \n\nกราบ,\nจิงโจ้ เป็นโล้เป็นพายดูหนัง\n\n#siamstr\n#movie",
"sig": "4f755262407f035865cc32c23bed546afd892025720ec0ce21bb414773bff9cac2cb0d8564dad1b761f48ba73c3f5d75e784eb9d747b377593a396d7ae9c0322"
}