Why Nostr? What is Njump?
2024-08-02 13:53:26

lvlick on Nostr: GE และฝันดีล่วงหน้า ...

GE และฝันดีล่วงหน้า พอดีว่ามีธุระจะเดินทาง(ทางกายภาพหน่อยสองสามวัน)เลย มาโน้ตไว้ก่อน เดี๋ยวใส่ลำดับการโน้ตไว้เพื่อง่ายสำหรับคนที่มาอ่านทีหลังสามารถตาม #ปฏิจจสมุปบาท ไปได้เลยครับ
ตอนที่ 5 คำชี้แจงเกี่ยวกับการศึกษาปฏิจจสมุบปาท
-ผู้ที่เข้าใจในหลักของปฏิจจสมุปบาท ที่เป็นการเกิดดับ ไม่มีอะไรที่เป็นตัวตนดังที่กล่าวแล้วนั้น ก็ยังสามารถที่จะมีชาตินี้ ชาติหน้า มีอบาย คือ นรก เดรัจฉาน เปรต อสุรกาย, มนุษย์ สวรรค์ พรหม, กระทั่งถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ได้ในกระแสแห่งปฏิจจสมุปบาทนั่นเอง ด้วยอำนาจการปรุงแต่งของอภิสังขารที่เป็นบุญ อบุญ อเนญชา ถ้าการปรุงแต่งนั้นสำเร็จรูปตอนเกิดเวทนา หรือในตอนเกิดชาติก็ตาม ถ้ามีอาการเป็นความเดือดร้อนใจ ก็มีความหมายแห่งนรก ดังที่พูดถึง นรกชื่อ มหาปริฬาหะ(มีความเร่าร้อนมาก) เห็นรูปได้ทางตาก็แต่ รูปที่ไม่น่าปรารถนา ไม่น่าใคร่ ไม่น่าพอใจ(เสียง กลิ่น รส สิ่งที่มาสัมผัสกาย สิ่งที่ใจรู้ เช่นกัน) เป็นนรกจริงยิ่งน่ากลัวยิ่งกว่านรกใต้ดินของพวกสัสสตทิฏฐิ ถ้าเวทนา หรือความทุกข์นั้นเต็มไปด้วยความกลัว ก็เป็น อสูรกาย ถ้าเต็มไปด้วยความหิวดั่งใจจะขาดก็คือ เปรต โง่ก็สัตว์เดรัจฉาน ทุกข์พอประมาณอย่างมนุษย์ก็มนุษย์ อร่อยอยู่ด้วยกามารมณ์ นานาชนิด นานาระดับ ก็คือสวรรค์ชั้นต่างๆ อิ่มอยู่ด้วยสุขเวทนาหรืออทุกขมสุขเวทนาในรูปฌาน และอรูปฌานนานาชนิด ก็คือความเป็นพรหมนานาชนิด เป็นของจริงยิ่งกว่าที่กล่าวว่าจะได้จะถึงต่อเมื่อเข้าโลงแล้ว ทั้งนี้เพราะตีความหมายของคำว่า โอปปาติกะ ในพุทธศาสนาผิดไปนั่นเอง
-ในกระแสการดับ(นิโรธวาร) แห่งปฏิจจสมุปบาทนั่นเองเราจะหาพบ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ที่แท้จริง เป็นธรรมที่ผู้ศึกษา และปฏิบัติ พึงเห็นได้ด้วยตนเอง(สันทิฏฐิโก) และก็รู้ได้เฉพาะตน ยิ่งกว่าพระรัตนตรัย ที่มัวพร่ำเพ้อหากันแต่ปากของพวกสัสสตทิฏฐิอีกนั่นอีก ชาตินี้ คือ ปฏิจจสมุปบาทวงปัจจุบัน ชาติหน้า คือวงถัดๆไปตามลำดับ ไม่ใช่การเกิดจากท้องแม่และเข้าโลง ชาติตามภาษาคน ภาษาเด็กอมมือ ไม่ใช่ของพวกอาจารย์สัสสตทิฏฐิ ที่ว่าเอาเองใน
ยุคหลังๆ แล้วก็ว่าสืบปรัมปราต่อๆ กันมาจนบัดนี้
-สิ่งที่จะช่วยให้เข้าใจข้อเท็จจริง ว่าภาษาสูงสุดในทางธรรมต่างจากภาษาชาวบ้านที่ยังต้องเจือปนอยู่ในความมีตัวตนมีอยู่มากมาย ตัวอย่างเช่นสัมมาทิฏฐิ สัมมาทิฏฐิที่พูดไว้ในภาษาสำหรับคนทั่วไปจะระบุว่ามีโลกนี้ โลกหน้า มีพ่อมีแม่ มีนรกสวรรค์ มีกรรมและคนผู้ทำกรรม รับผลกรรมชาตินี้ และชาติต่อๆไปตามโวหารคนธรรมดาเข้าใจและยึดถือ เมื่อมาถึงสัมมาทิฏฐิชั้นกลาง จะไม่ระบุเช่นนั้น ระบุแต่เรื่องทุกข์กับความดับไม่เหลือแห่งทุกข์เท่านั้น จะไม่ระบุหรือยอมรับว่ามีบุคคลผู้ทุกข์หรือผู้ทำการดับทุกข์เลย ก็เรียกว่าสัมมาทิฏฐิด้วยเหมือนกัน พอมาถึงชั้นสูงสุด คือเห็นธรรมที่เป็นจริงแล้วจะไม่เอียงไปทางความเห็นว่าตัวตนมีและไม่เอียงไปทางความเห็นว่าตัวตนไม่มี เพราะเห็นชัดแต่ในระหว่างกลางคือเห็นกระแสแห่งปฏิจจสมุปบาทซึ่งมีอยู่ว่า “เพราะสิ่งนี้มี สิ่งนี้จึงมี เพราะสิ่งนี้ไม่มี สิ่งนี้จึงไม่มี” ดังนี้ ทุกอย่างไม่ใช่ตัวตนในความหมายใดๆ แม้แต่จะกล่าวว่า นรกสวรรค์ ก็ไม่มีหนทาง ยิ่งกว่านั้นยังเรียกการเห็นถึงขนาดนี้ว่า มัชฌิมาปฏิปทาโดยแท้จริงอีกด้วย
-เพราะไม่เอียงไปทางฝั่งใดฝั่งหนึ่งแต่ประการใด ขอให้สังเกตว่าทำในภาษาคนนั้นพูดว่ามีตัวตน ส่วนทำในภาษาธรรมหามีตัวตนไม่ แต่ก็เป็นสัมมาทิฏฐิในพุทธศาสนาด้วยกันทั้งนั้น ภาษาคนสำหรับสอนศีลธรรมแก่คนทั่วไป ภาษาธรรมสำหรับสอนปรมัตถธรรม แก่ผู้มีฝุ่นในดวงตาเล็กน้อยสำหรับจะเป็นอริยสาวกต่อไปเท่านั้น พระพุทธเจ้าต้องพูดด้วย 2 ภาษาอยู่อย่างนี้เสมอ ปฏิจจสมุปบาทเป็นเรื่องปรมัตถธรรมอันสูงสุดไม่ใช่เรื่องศีลธรรม ดังนั้นจึงไม่มีตัวตนสำหรับมาท่องเที่ยวเป็นชาติๆ จนปฏิจจสมุปบาทสายหนึ่งต้องกินเนื้อที่หรือเวลาตั้ง 3 ชาติในภาษาคนเลย
#siamstr #ปฏิจจสมุปบาท #พ่อออกค้ำ
Author Public Key
npub1uprlst7kjp0eyfxe4yn7q36gr885mjr9fm6ejfqt8pmdta7stv9s2xvysq