Why Nostr? What is Njump?
2023-11-05 14:21:28

Value Among Us

ผมลืมตาขึ้นมาเห็นภาพที่ยังไม่ค่อยชินเท่าไหร่นัก.. มีผู้ชายนอนอยู่ในห้องเดียวกันกับผม.. เมื่อคืนเขาละเมอราวกับว่าตัวเองกำลังอัดรายการสภายาส้มอยู่.. ผมนอนฟังไปพร้อมกับอมยิ้มขำ ๆ ปล่อยให้เขาละเมอต่อไปเรื่อย ๆ จนหมดแรงหลับไปเอง..

<span itemprop="mentions" itemscope itemtype="https://schema.org/Person"><a itemprop="url" href="/npub15l5mxmljftnnqur8gf2nkjj2yuemqy2kuly7yc29lx7x598svx5s447rgk" class="bg-lavender dark:prose:text-neutral-50 dark:text-neutral-50 dark:bg-garnet px-1"><span>Jingjo</span> (<span class="italic">npub15l5…7rgk</span>)</a></span> ยังคงไม่ยอมตื่น.. เรารู้สึกถึงความปลอดภัยเราจึงกล้าเมาทะลุเพดานของตัวเอง เขาคงรู้สึกเหมือนได้รับการปลดปล่อย เมื่อวานจึงกระดกเก๊กฮวยจนมากไปหน่อย ผมคงไม่นำเอาวีรกรรมแผลง ๆ ของเขามาเผยให้อ่านกันตรงนี้.. ผมอยากยืดเวลาออกไปอีกสักหน่อย เมื่อคิดว่าเราต้องจากกันแล้วมันรู้สึกหวิว ๆ ยังไงชอบกล..

ผมลากจิงโจ้ให้ลงมานั่งรับแดดใต้ตึกกันยามเช้า (น่าจะสายพอสมควรแล้ว) เรามีเรื่องค้างในหัวเกี่ยวกับความสัมพันธ์ชายหญิงที่เหมือนจะถกกันไม่ค่อยจบจากเมื่อคืน เราแลกเปลี่ยนกันต่อในเรื่องเหล่านี้จนเวลาไหลไปยาว ๆ เกือบ 11 โมง บางประเด็นเราพูดถึงตลาดในแวดวงยาแดง บางประเด็นเราถกเรื่องของตัวเอง.. ผมฟังไปมองหน้าจิงโจ้ไป

ผู้ชายคนนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่น่าสนใจ.. วิธีที่เขาคิด แนวทางที่เขาพูด มันฟังเพลินจนผมอยากจะหยุดนาฬิกาเอาไว้ตรงนั้น..

บทสนทนาของเราเข้มข้นขึ้นตามความแรงของแดดที่กำลังแผดเผาเราไปเรื่อย ๆ ผมปิดท้ายด้วยเรื่องลับบางอย่างที่ทำให้จิงโจ้ต้องตาค้าง.. เขากัดฟันกรอด ๆ แต่ผมก็บอกไปเพียงว่า.. มันเป็นหนึ่งในความโสมมที่ซุกซ่อนตัวอยู่ในตลาดคริปโต.. เป็นสิ่งที่พี่ใช้ผลักดันตัวเองมาตั้งแต่ต้น พี่ต้องการจะทำลายเรื่องพวกนี้ให้สิ้นซาก..

“นอกจากบิตคอยน์แล้ว.. ทุกเหรียญแม่งคือขยะ!”

ผมสบถออกมาแรงพอสมควร จนพนักงานต้อนรับของโรงแรมถึงกับผงะเล็ก ๆ อยู่ ๆ เราก็ทำให้ตัวเองหงุดหงิดขึ้นมาเสียดื้อ ๆ คงไม่ได้การแล้ว.. ผมรีบอาบน้ำ เก็บข้าวของจากนั้นจึงต้องร่ำรากันตามธรรมเนียม..

“ไว้เจอกันใหม่นะ.. เมื่อไหร่ก็ไม่รู้เหมือนกัน..”

สภายาส้ม In real life

ผมไม่สามารถบอกเล่าได้ทั้งหมดว่าตลอด 2 วันของงานมีตอัพ พวกเราคุยอะไรกันไปบ้าง บิตคอยเนอร์เหมือนพวกคนบ้าที่สนทนากันได้ยาวโดยไม่จำเป็นต้องมีกำหนดการณ์หรือหัวข้อใด ๆ มันยาวมากจนแทบจะหยุดไม่อยู่ จนผมต้องคอยเตือนสติทุกคนว่า..

“หาอะไรแดกกันเถอะพวกเรา..”

คุยกันจนลืมเวล่ำเวลา.. ทุก ๆ ประเด็นปัญหาภายในสังคมถูกหยิบยกขึ้นมาถกเถียงแลกเปลี่ยนกันอย่างต่อเนื่อง ผมเป็นทั้งผู้พูดและผู้ฟังในเวลาเดียวกัน.. ในวงสนทนาแรก เรามีเจ้าของร้านกาแฟที่อาจจะเรียกได้ว่าเป็น Nocoiner ท่านนึงมาร่วมแจมด้วย..

การตั้งคำถามของเขาเป็นประโยชน์ต่อวงสนทนาของพวกเรา มันไม่แปลกที่เขาจะสงสัยในศักยภาพของตัวบิตคอยน์ นั่นเปิดโอกาสในเราได้ลองสลับกันอธิบายและไขข้อข้องใจในประเด็นต่าง ๆ ผมรู้ว่าคนที่เหลืออาจกำลังมุ่งหวังที่จะ “ป้ายยาส้ม” แขกพิเศษท่านนี้ให้จงได้ แต่ผมคิดว่านั่นอาจยังไม่ใช่สิ่งจำเป็น..

“เราควรเริ่มตั้งธงในใจว่าเราจะไม่พยายามป้ายยาส้มใครให้ได้ทั้งนั้น เราแค่ให้ข้อมูลและตอบในสิ่งที่พี่เขาสงสัยด้วยมุมมองตามความเข้าใจของตัวเองก็พอแล้ว..”

ผมเลือกตัดตอนจิตวิญญาณในการขายของทุกคนภายในประโยคเดียว

คนบางคนเราดูออกตั้งแต่ต้นว่าเราควรจะรับมือกับเขายังไง แขกท่านนี้ดูมีความสนใจใคร่รู้ และเท่าที่ผมสอบถามมาคร่าว ๆ เขาเป็นคนที่มีตรรกะในการคิด ชอบเรียนรู้อะไร ๆ ด้วยตัวเอง สิ่งที่ผมอยากให้ทำก็แค่ทิ้งไพ่ใบต่าง ๆ ที่เป็นคำถามไว้บนโต๊ะ แล้วปล่อยให้เขาหยิบมันไปหาคำตอบในหลุมกระต่ายด้วยตัวเขาเอง

หากบุญพาวาสนาส่ง.. วันนึงเราอาจได้เจอเขาคนนั้นวิ่งเล่นอยู่บนทุ่งม่วงร่วมกับเรา

ผมไม่ได้ชวนทุกคนมาป้ายยาส้มใครทั้งนั้น ผมแค่หาโอกาสให้พวกเราได้เจอกัน ได้คุยกับเพื่อนที่อยากเจอตัวกันมานานแล้ว คุยอะไรก็ได้ไม่จำเป็นต้องเกี่ยวข้องกับบิตคอยน์ แต่จนแล้วจนรอด ไม่ว่าเราจะเปลี่ยนไปคุยประเด็นไหน เราก็มักเชื่อมโยงมันเข้ากับบิตคอยน์จนได้ทุกที ซึ่งก็รวมถึงตัวผมเองด้วย (อืมมม… บิตคอยเนอร์คงเป็นแบบนี้สินะ)

คุณ <span itemprop="mentions" itemscope itemtype="https://schema.org/Person"><a itemprop="url" href="/npub1ckqr980578cdlc63yx24lanrvcql0q85rpxaugr07vlm2rgtvl9shwce2q" class="bg-lavender dark:prose:text-neutral-50 dark:text-neutral-50 dark:bg-garnet px-1"><span>Win Vee</span> (<span class="italic">npub1ckq…ce2q</span>)</a></span> ได้สัมผัสกับบรรยากาศการสนทนาของรายการที่ตัวเองติดตามมาตลอดเป็นครั้งแรก เรียกว่าแทบหลุดเข้าไปในหลุมดำเลยทีเดียว..

“เหมือนผมกำลังนั่งอยู่กลางรายการสภายาส้มเลยนะพี่.. แต่พิเศษใส่ไข่ตรงมันมีพี่ตั้มมาแจมด้วยนี่สิ”

มีบางช่วงที่ผมได้เผยถึงเป้าหมายบางอย่าง ผมชี้ให้ทุกคนเข้าใจเพนพ้อยร่วมของพวกเราชาวคอมมูนิตี้ ซึ่งคุณวิน หรือเอ็ม <span itemprop="mentions" itemscope itemtype="https://schema.org/Person"><a itemprop="url" href="/npub1r27yp3vmr53gx9z2ltzxt8pah07p5xext2u7eeeg5zs5cmxkpeqst2hxu8" class="bg-lavender dark:prose:text-neutral-50 dark:text-neutral-50 dark:bg-garnet px-1"><span>chontit</span> (<span class="italic">npub1r27…hxu8</span>)</a></span> ก็ดูอินไปกับปัญหาเหล่านี้มากเลยทีเดียว..

เมื่อตลาดคริปโตเดินเข้าสู่ขาขึ้น ซึ่งเราเองก็ไม่รู้หรอกว่าจะเป็นช่วงเวลาไหน ในวันนั้นจะมีผู้คนมากมายกรูกันเข้ามาในระบบนิเวศน์ที่พวกเรายืนอยู่ในตอนนี้ ผมเข้าใจว่าคนส่วนใหญ่จะถูกความโลภชักนำพวกเขาเข้ามา ซึ่งมันก็คงไม่แปลกหรือจะผิดอะไรทั้งนั้น เราไม่ได้มีหน้าที่มานั่งวิพากษ์วิจารณ์หรือตัดสินว่าใครจะกาก ใครเลว ใครดี

เป้าหมายแรกเริ่มเดิมทีของผม มันคือการหาทางช่วยให้พวกเขามีช่องทางเข้าถึงความรู้หรือความเข้าใจในบิตคอยน์ เข้าสู่คอมมูนิตี้ของเรา เมื่อถึงเวลาที่พวกเขาต้องการมัน

ความสนใจของแต่ละคน ย่อมมีความแตกต่างกันออกไป บางคนชอบศึกษาเทคโนโลยี บางคนชอบเศรษฐศาสตร์ บางคนชอบถกปรัชญา ฯลฯ ผมเรียกทางเข้าที่จะพาพวกเขาไปสู่สิ่งที่ตนสนใจนี้ว่า “ประตู”

จะเห็นได้ว่าเรามีประตูอยู่ด้วยกันหลายบาน.. ประเด็นก็คือประตูแต่ละบานนั้นเราได้สร้างเส้นทางไปสู่จุดหมาย (ความเข้าใจ, ความรู้, ชุมชน) ไว้ให้กับพวกเขาแล้วหรือยัง ทางเดินที่ดีควรจะเริ่มจากง่ายไปหายาก คนใหม่ไม่มีทางเข้าใจเรื่องยาก ๆ ได้ตั้งแต่ช่วงแรก เส้นทางที่ไล่เรียงองค์ความรู้ไว้อย่างดีนั้นจึงสำคัญ

Right Shift มีคนไม่พอ เวลาไม่พอ ที่จะสร้างเส้นทางทั้งหมดนั่นได้ในระยสั้น ๆ ผมจึงต้องการคอมมูนิตี้ อยากให้มีคอมมูนิตี้ เพื่อช่วยกันทำเรื่องพวกนี้เอาไว้นั่นเอง.. และตัวคอมมูฯ ของเราเองก็ควรเป็นที่ ๆ เหมาะกับการต้อนรับมือใหม่เหล่านั้นด้วย

ผลลัพธ์ของการ “มี” กับ “ไม่มี” สิ่งที่ว่านี้ ผมเชื่อว่าพวกเราคงเดากันเองได้ไม่ยากเท่าไหร่นัก..

แล้วผมมาเรียกร้องให้เกิดสิ่งนี้ไปเพื่ออะไร?

ลองเลื่อนกลับขึ้นไปอ่านองก์แรกของบทความนี้ดูอีกสักครั้ง

เพราะผมต้องการทำลายวงจรอุบาทก์ให้มันสิ้นซากไปเสียทียังไงล่ะครับ.. ผมอยากเห็นแนวทางที่เราจะชนะได้อย่างยั่งยืนและยังสามารถส่งต่อสิ่งเหล่านี้ไปสู่ลูกหลานของเราในอนาคตได้อีกด้วย.. แน่นอนว่านี่คือเรื่องระยะยาว

“ผมเอาด้วย.. ถ้ามีอะไรให้ผมช่วยก็บอกได้เลยนะพี่ ผมอยากช่วย..”

วินกล่าวกับผมโดยไม่มีความลังเลเมื่อบทสนทนากำลังใกล้จะจบลง..

ยาส้ม ยาม่วง ยาแดง

"เสียดายนะพี่ อยากให้หลาย ๆ คนได้สัมผัสอะไรแบบนี้บ้าง.. มากันน้อยไปหน่อย"

"มันเกิดขึ้นได้ทุกที่แหละวิน.. เกิดเวลาไหนก็ได้ เรื่องแบบนี้มันไม่ต้องรอให้พี่มาจัดก็ได้ ใครอยากจัดก็จัดกันไปเลย จะกินส้มตำกันก็ได้ ไม่จำเป็นต้องมาแดกเบียร์แบบเราหรอก.. เราไม่เห็นได้ใช้งบอะไรกันมากมายเลย ก็เหมือนนัดเพื่อนมาเจอกันหรือป่าววะ?"

มันจะมีแต่ความทรงจำที่ดีให้เก็บกลับไป มันจะมีแต่บทสนทนาที่เราใฝ่ฝันจะเข้าร่วมมาโดยตลอด มันจะมีแต่คนในแบบที่เราอยากคุยด้วย มันแค่หาโอกาสให้คนในคอมมูนิตี้ได้มาเจอกันดูสักครั้ง..

ผมเล่าให้น้อง ๆ ในวงสนทนาฟังว่าผมคาดหวังอะไรเมื่อครั้งที่ผมแคมเปญ Local Bitcoin Circle ซึ่งเป้าหมายเหล่านั้นไม่มีอะไรที่ Benefit ทางตรงกับผม หรือ Right Shift เลยแม้แต่เรื่องเดียว แต่มันจะให้ผลลัพธ์และประสบการณ์ดีๆ กับใครก็ตามที่ได้เข้าร่วม

จิงโจ้, วิน และเอ็ม ต่างก็พยักหน้ารับรู้ในสิ่งที่ผมได้พูดออกไป คุณค่าที่เกิดขึ้นนั้นแลคล้ายเป็น Subjective บางอย่างจับต้องไม่ได้ แต่เรารับรู้ถึงมันได้

ตลอด 12 ชม. ที่เราได้อยู่ร่วมกัน ผมน่าจะพูดคำว่า "Value" ไปมากกว่า 100 ครั้ง เพราะนั่นคือสิ่งเดียวที่จะคอยทำหน้าที่เชื่อมพวกเราเข้าหากัน และความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นมันจึงจะยั่งยืน คุณค่าเกิดขึ้นได้ในทุกที ทุกเรื่อง ทุกเวลา

ที่ร้านคราฟท์เบียร์เป็นที่ ๆ จิงโจ้ได้ปลดปล่อย "ยาแดง" ออกมาอย่างเต็มคราบ ตลาดความสัมพันธ์ระหว่างชายกับหญิง ช่างเป็นหัวข้อที่ใครก็ขย้อนลงคอได้ยากยิ่งนัก ผมสังเกตุเห็นวินที่ตั้งใจฟังและเริ่มออกอาการหัวบวมขึ้นทีละนิด ๆ

เอ็มอาจไม่ได้เข้าใจในสิ่งที่จิงโจ้พูดไปเสียทั้งหมด แต่ด้วยประสบการณ์คุณพ่อลูก 1 ก็ทำให้เค้าสามารถเข้าสู่บทสนทนาหัวข้อนั้นได้อย่างไม่เคอะเขิล

หัวข้อสนทนาบนโต๊ะเต็มไปด้วย Dynamic มันถูกสวิทช์ไปมาระหว่างยาส้ม, ยาแดง และยาม่วงอย่างไร้รอยต่อ ถ้าผมสามารถ LIVE ได้ มันก็คงจะกลายเป็นคลิประดับตำนานได้เลยทีเดียว เอ็มและวินคงได้เห็นแล้วว่า อะไรที่เคยได้ยินเราคุยกันผ่านหน้าจอนั้น ช่างเทียบกันไม่ได้เอาเสียเลยกับการได้ฟังมันแบบสดๆ

สิ่งที่จิงโจ้พูดเหมือนว่า Exclusive มากพออยู่แล้ว สิ่งที่ผมเป็นคนพูดยิ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยมีใครได้ยินมาก่อนเลยทั้งสิ้น.. ซึ่งมันก็แหง๋ล่ะ.. ก็ผมไม่เคยไปออกรายการหรือเคยไปโผล่ตามสื่อที่ไหนมาก่อนนี่นา

เราโชคดีที่ได้เจอคู่นักร้องรุ่นลายครามมานั่งเล่นเพลงให้เราฟัง หะแรกที่ผมได้ยินเสียงร้องดังกล่าว (ซึ่งน่าจะเป็นเพลง Surrender ของ Dido) มันทำให้ผมจินตนาการไปถึงเสียงร้องของ Karen Carpenter ผมเชื่อเหลือเกินว่าพี่คนนี้จะต้องร้องได้ดีอย่างแน่นอน..

“ขอเพลงอะไรก็ได้ของวง Carpenters ครับ..”

เด็ก ๆ ยังค่อนข้างงุนงงว่าผมรู้ได้อย่างไรว่าพี่คนนี้จะร้องเพลงของวงสองพี่น้องออกมาได้ดี แต่หลังจากเพลง Yesterday once more ได้เริ่มบรรเลงขึ้น บทสนทนาของยาหลากสีก็โดนหยุดลงไปโดยทันที

ผมยังไม่รู้สึกเมาเลยแม้แต่น้อย แต่อาการเคลิ้ม ๆ ของผมที่กำลังหลับตานั่งยิ้มวาดมือไปตามเมโลดี้ ก็สะกดทุกคนให้ต้องตั้งใจฟังตามผมไปด้วย

“ขนลุกเลยพี่..” วินกล่าว

“ดูสิ.. พี่ตั้มแกฟังแต่เพลงรุ่นพ่อผมทั้งนั้นเลยนะ พ่อผมก็ฟังแต่เพลงพวกนี้แหละ”

จิงโจ้แซว.. จะบอกว่าผมแก่ตรง ๆ ก็คงเกรงใจ ผมแค่สงสารวินที่เริ่มเบิร์นเอ้าท์กับเม็ดยาที่กินเข้าไปตลอดทั้งวัน ผมต้องเปลี่ยนหัวข้อและบรรยากาศภายในวงไปเป็นอย่างอื่นดูบ้าง

จากจุดนั้นมันทำให้วงของเราเริ่มค่อย ๆ ผ่อนคลายกันมากขึ้น บทสนทนาเริ่มคืบคลานไปยังเรื่องส่วนตัวของแต่ละคน เราเพลิดเพลินกับการเรียนรู้ซึ่งกันและกัน.. ทั้งหมดนั้นได้นำพวกเราไปสู่ความสนิทสนมโดยไม่ยากเท่าไหร่นัก

วงเหล้าที่ให้ประสบการณ์ที่ดีกับเรานั้น.. นอกจากตัวเหล้าที่ต้องดีและบรรยากาศที่ต้องได้แล้ว คู่สนทนาที่อยู่ในวงเหล้าก็ต้องเป็นอะไรที่เข้ากับจริตของเราได้ด้วย.. แต่เรื่องนี้เราจะข้ามมันไปเลยก็ได้

เพราะพวกเราต่างก็เป็นบิตคอยเนอร์ด้วยกันอยู่แล้ว เราคุยภาษาบิตคอยน์ได้โดยธรรมชาติ มันต่อกันติดได้ง่ายจะตายไป

ป้ายยาส้มยังไงให้ดูหน้าม่อ

“น้องเค้าอยากได้ตุ๊กตาปิรันย่าน่ะพี่”

ผมหันไปเจอน้องผู้หญิงที่มาคอยชงเบียร์ให้เรา กำลังทำท่าทางลับ ๆ ล่อ ๆ อยู่หลังต้นไม้ถัดออกไปไม่ห่างจากเรานัก

“น่ารักดีค่ะ หนูอยากได้..” เด็กสาวพูดออกมาอย่างเขิน ๆ

“มาเอาของพี่สิ พี่ยกให้”

ผมก็ตอบแบบป๋า ๆ ไปอย่างอัตโนมัติ พวกคนที่เหลือส่งเสียงฮิ้วฮา เหมือนกำลังต้องการจะแซวว่าผมนี่ช่างทำตัวเจ้าชู้ประตูดินเอาเสียจริง ๆ ในท้ายที่สุดผมก็ปลดพวงกุญแจหัวปิรันย่าให้กับน้องคนนั้นไป.. เสือกพูดจาปากไวไปแล้วด้วยไง

“พี่ตั้มนี่ร้ายเหมือนกันนะเนี่ย.. แต่น้องมันได้ของดีไปง่ายเกินไปหรือเปล่าวะ?”

ไอ้เด็กพวกนั้นมันแซวผม.. ผมยิ้มรับอย่างเสียมิได้ ภาพมันเห็นอยู่คาตากันซะขนาดนั้น

“วันหนึ่งน้องคนนี้อาจจะกลายเป็นบิตคอยเนอร์คนนึงในคอมมูนิตี้ของเราก็ได้เหมือนกันนะ..”

ผมชวนให้ทุกคนคิดตาม ว่าแท้จริงแล้วผมทำเรื่องเมื่อกี้ไปเพื่ออะไรกัน ซึ่งหลังจากนั้นอาการของเด็กสาวคนนั้นก็เปลี่ยนไป นางรู้สึกว่าเราเป็นมิตรจึงกล้าคุยเล่นกับเรามากขึ้น ๆ

ผมคิดไม่ผิด.. เด็กคนนี้ยังเรียนอยู่ในระดับมหาวิทยาลัย คณะวิศวะ หรืออะไรสักอย่างได้ยินแว่ว ๆ วันนี้น้องก็แค่มาทำพาร์ทไทม์เพื่อหารายได้ไปส่งตัวเองเรียน เพื่อนของเขาจะได้เห็นปิรันย่าในสักวัน และหนึ่งในนั้นอาจอยากได้มัน และสุดท้ายดีมานด์จะพาไปหาโซลูชั่นได้ตามธรรมชาติของตัวมันเอง..

ผมได้ให้เว็บแอดเดรส rightshift.to และเปิดให้น้องดูช่องยูทูปของพวกเรา Right Shift

“อ๋อ… พวกพี่ทำเกี่ยวกับบิตคอยน์เหรอ?”

“ใช่ครับ.. ตุ๊กตานี่เป็นมาสค๊อตของพวกเราเองแหละ ดูคลิปนี้สิ.. นี่ไงพี่จิงโจ้ ไอ้เสื้อเหลืองนั่นก็เป็นพี่เองยังไงล่ะ..”

ผมชี้ไปที่ อ.พิริยะ

“คนนี้เค้าเป็นคนดังระดับประเทศเลยนะ ผู้ก่อตั้งของพวกเราเอง”

จิงโจ้สวนขึ้นมาทันที..

“เค้าเป็นคนดังระดับโลกไปแล้วนะพี่!”

“อ่อ.. ขอโทษๆ พี่พูดผิดสินะ”


ผมได้แบ่งชิ้นขนมปังที่ผมให้กับปลาตัวหนึ่งไปแล้ว.. วันนึงปลาที่หิวโหยจะกินขนมปังที่ผมให้ไว้นั้นด้วยตัวมันเอง ขนมปังอาจจะไร้ค่าถ้าให้กับปลาที่กำลังอิ่มหมีพลีมัน เราก็แค่มารอดูกันว่า.. เราให้คุณค่ากับปลาที่ถูกตัวหรือเปล่าเท่านั้นเอง..

ทั้งสามคนเริ่มมองผมด้วยสายตาแบบใหม่ ซึ่งเอาเข้าจริงพวกเขาก็รู้แหละว่า.. ผมไม่ได้ต้องการจะจีบเด็กร้าน.. ก็อย่างที่ผมพึ่งบอกกับวินไป.. ประตูของแต่ละคนไม่จำเป็นต้องเป็นบานเดียวกัน แต่ละคนที่เป็นบิตคอยเนอร์เหมือนเราในวันนี้ เส้นทางของเขาย่อมมีความเฉพาะในแบบของตัวเขาเอง

ตุ๊กตาที่ให้ไปนั้นมันมีคุณค่ากับตัวพี่มาก.. พี่ก็แค่ส่งต่อคุณค่านั้นไปสู่มือคนอื่น.. พี่ไม่รู้เหมือนกันว่าพี่คิดถูกหรือพี่คิดผิด.. อะไรที่เราเลือกทำไปแล้ว เราก็ตัดสินใจด้วยความเชื่อที่ว่ามันจะดีกับเราทั้งนั้นแหละ.. เอาน่า.. ซื้อเอาใหม่ก็ได้ อย่าคิดมาก

เด็กคนนั้นเดินถือตุ๊กตาปิรันย่าอวดคนไปทั้งร้าน อวดพี่ ๆ พนักงานในร้านเป็นการใหญ่ ผมเห็นแล้วก็อดยิ้มไม่ได้.. ปิรันย่าแกได้แอร์ไทม์อีกแล้วสินะ..

ระหว่างที่เรากำลังรอเช็คบิล และร้านกำลังจะปิด ผ่านเหตุการณ์ปะทะทัวร์จีนเล็กน้อยไปพอหอมปากหอมคอ ซึ่งมันก็ไม่ได้มีประเด็นอะไรเกิดขึ้น ผมหันไปเจอจิงโจ้กำลังก้ม ๆ เงย ๆ ทำอะไรบางอย่างอยู่กับน้องคนนั้น

มันเอาตุ๊กตาของมันไปแลกกับของที่น้องพึ่งได้จากผมไป!

ผมไม่รู้ว่ามันคุยอะไรกัน.. แหม.. มึงก็ร้ายเหมือนกันนะจิงโจ้

การมีตอัพที่จัดกันเล็ก ๆ นี้ ได้มอบความสุขอันยิ่งใหญ่ให้กับเราทุกคนที่มีโอกาสได้เข้าร่วม เราถูกเน้นย้ำให้เห็นถึงคุณค่าในแง่มุมต่าง ๆ ผ่านการกระทำ คำพูด และความรู้สึก เราจากกันด้วยความรู้สึกอันอิ่มเอม และหวังว่ามันจะเกิดขึ้นอีกครั้งไม่ว่ากับเราหรือกับใคร

การสร้างคุณค่า และการส่งต่อคุณค่าเป็นเรื่องที่ใครก็สามารถทำมันได้ง่าย เราทำมันได้ในทุก ๆ ที่ ในทุกโอกาส ไม่จำเป็นต้องเลือกปฏิบัติหรือมัวหน้าบางขวยเขิน ทำมันในแบบของคุณ แบ่งปันมันกับเพื่อนของคุณ กับคนที่คุณรัก และเพื่อนร่วมโลก

มาร่วมกันสร้างคุณค่าและส่งต่อมันกันเถอะพวกเรา!


End credits

"ขอร้องล่ะแจ็ค ตัดผมก่อนไปด้วยนะ"

แม่โบวิงวอน เพราะรู้ว่าผมไม่ยอมตัดผมอีกเลย นับตั้งแต่จบงานคอนเฟอเรนซ์

"ได้แม่.. ผมก็ว่าจะไปตัดที่โคราชอยู่พอดี"

ผมวางแผนว่าจะไปถึงโคราชให้ไว เพื่อจะเหลือเวลาพอไปตัดผมก่อนจะเจอกับคนอื่น ๆ ผมรู้ว่ามันไม่เท่นักหรอกที่คนจะเห็นว่า Jakk Goodday แม่งเหมือนกับพวกฮิปปี้

แต่... ผมดันอยากกินเบียร์มากไปหน่อย วันแรกจึงชวดไปโดยปริยาย..

"เอาน่า.. พรุ่งนี้พี่จะไปตัดก่อนเรานัดเจอกัน 10 โมงเช้า"

// // //

ซึ่งผมก็ชวดอีกครั้ง.. เพราะมัวนั่งเอ้อละเหยรับแดด ไถฟีด #Siamstr จนเวลาผ่านไปเปล่า ๆ ปลี้ ๆ

"เรานัดเจอกันอีกทีที่ร้านตอน 5-6 โมงเย็นเลยไม่ใช่เหรอ? ยังมีเวลาๆ เดี๋ยวพี่ไปตัดช่วงนี้แหละ"

// // //

และผมก็ชวดอีกตามระเบียบ เพราะผมเลือกขึ้นไปแน๊ปหลับสั้นๆ บนที่นอนนุ่ม ๆ ของทางโรงแรม.. จนแล้วจนรอดตลอดงานมีตอัพทุกคนก็ได้เจอกับ Jakk ในเวอร์ชั่นสุดแสนสมถะและรกรุงรังเสียเหลือเกิน..

ท้ายที่สุด.. หลังทุกคนแยกย้ายผมก็ไปตัดผมเสียจนเหี้ยนเตียน.. อย่างน้อยแม่โบก็ว่าอะไรผมไม่ได้แล้ว

// // //

"ผมตัดผมแล้วนะครับ.. แต่ทุกคนกลับกันไปหมดแล้วนะ"


Jakk ผู้ผลัดวันประกันพรุ่งในเรื่องไม่เป็นเรื่อง

Author Public Key
npub1mqcwu7muxz3kfvfyfdme47a579t8x0lm3jrjx5yxuf4sknnpe43q7rnz85